• เกี่ยวกับการเรียน
  • เกี่ยวกับโรงเรียน
  • เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่น
  • เกี่ยวกับวีซ่า

การเรียนเริ่มตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง

รอบเช้า 9:00-12:30 น. รอบบ่าย 13:00-16:30 น. โดยแบ่งคาบเรียนทั้งหมดเป็น4คาบ คาบละ45นาที การเรียนแบ่งเป็นรอบเช้าและบ่ายตามระดับภาษาญี่ปุ่นซึ่งนักเรียนจะไม่สามารถเลือกเองได้ โดยระดับต้นจนถึงระดับกลางตอนต้นจะเรียนรอบบ่าย และระดับกลางตอนปลายจนถึงระดับสูงจะเรียนรอบเช้า

มีการแบ่งระดับชั้นเรียนอย่างไร

เมื่อเข้ามาเรียนจะมีการสอบแบ่งระดับชั้นเรียนโดยพิจารณาในหลายๆด้าน(การสนทนา การฟัง การเขียน) สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อมหาวิทยาลัยนั้น นอกเหนือจากการสอบแบ่งระดับชั้นเรียนแล้วยังจำเป็นต้องสอบวิชาที่ใช้เข้าเรียนหลักสูตรศึกษาต่อมหาวิทยาลัยอีกด้วย(EJU+JLPT)

ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นเลยก็เรียนได้ไหม

สามารถเรียนเพื่อเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยได้หรือไม่

ได้ โดยมีหลักสูตรศึกษาต่อปริญญาตรีและศึกษาต่อปริญญาโท ซึ่งทุกๆปีจะมีผู้สอบเข้าได้เป็นจำนวนมาก และสำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษาต่อโรงเรียนอาชีวะศึกษาหรือวิทยาลัยนั้นก็จะมีการแนะแนวเป็นรายบุคคลในหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไปดูรายละเอียดได้ที่แนะแนวการศึกษา ผลงาน

มีกิจกรรมอะไรบ้าง

มีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิเช่น งานต้อนรับนักเรียนใหม่(โตเกียวดีสนีย์แลนด์) , รถบัสทัศนศึกษา , งานคริสต์มาส, การแข่งสุนทรพจน์ เป็นต้น และนอกเหนือจากนี้ยังสามารถเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้โดยตรง เช่น เทศกาลทานาบาตะ การแสดงราคุโกะ รวมทั้งมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวญี่ปุ่นเป็นประจำ 

มีหอพักหรือไม่

มี ทางโรงเรียนมีหอพักและยังสามารถแนะนำที่พักรวมอาหารให้ได้ โดยในตอนสมัครกรุณาสอบถามทางเมล์หรือโทรศัพท์อีกครั้ง
ดูรายละเอียดข้อมูลหอพักได้ที่นี่

ภาษาญี่ปุ่นยังไม่ชำนาญ ถ้ามีเรื่องให้ช่วยเหลือจะทำอย่างไรดี

ที่โรงเรียน มีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี เวียดนามได้ ในโรงเรียน หากต้องการความช่วยเหลือก็สามารถปรึกษาได้ หากเป็นภาษาอื่นๆ นักเรียนรุ่นพี่ ก็สามารถให้คำปรึกษาและเป็นล่ามให้ได้ แน่นอนว่า สามารถปรึกษาคุณครูประจำชั้นได้เช่นกัน

มีทุนการศึกษาหรือไม่

มี นอกเหนือจากทุนการศึกษาของโรงเรียนแล้ว ยังมีทุนการศึกษาจากหน่วยงานภายนอกมอบให้โรงเรียนเนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีผลงานทางด้านการสอบเข้าศึกษาต่อที่สงู
ดูรายละเอียดข้อมูลทุนการศึกษาได้ที่นี่

รู้สึกกังวลเนื่องจากมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ไม่รู้จักใครเลย อีกทั้งไม่เข้าใจเรื่องมารยาทและกฏเกณฑ์ต่างๆของญี่ปุ่น

เนื่องจากทางโรงเรียนมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ประจำอยู่ ถ้ามีปัญหาอะไรก็สามารถขอคำปรึกษาได้ สำหรับนักเรียนจากประเทศอื่นๆนั้น ศิษย์เก่าของทางโรงเรียนก็สามารถให้คำแนะนำได้เช่นกัน และในตอนปฐมนิเทศน์ก่อนเริ่มเปิดภาคเรียนนั้นก็มีการอธิบายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น จึงขอให้สบายใจได้
ดูรายละเอียดข้อมูลการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้ที่นี่

สามารถทำงานพิเศษได้หรือไม่

สามารถทำได้ บริเวณรอบๆโรงเรียนเองก็มีร้านอาหารมากมาย แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องมี”ใบรับรองคุณวุฒิเข้าทำงาน”เพื่อใช้ในการทำงานพิเศษ
ดูรายละเอียดข้อมูลในรับรองคุณวุฒิเข้าทำงานได้ที่นี่

คุณมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นอย่างไร?

มีคู่มือที่เรียกว่าคู่มือสำหรับนักศึกษาต่างประเทศ  ที่ออกโดยเขตโตเกียว ในคู่มือมีการอธิบายการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น โดยได้อธิบายรายละเอียดไว้อย่างง่ายๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้  นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพื่อใช้ติดต่อในกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน

http://www.tomin-anzen.metro.tokyo.jp/about/poster-leafret/


(ภาษาที่รองรับมีดังนี้)
ภาษาญี่ปุ่น  ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาเวียดนาม ภาษาไทย ภาษาเนปาล ภาษาเมียนมา ภาษาอินโดนีเซีย ภาษามาเลเซีย ภาษามองโกเลีย ภาษาเบงกอล ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโปรตุเกส

ภาษารัสเซีย
การที่จะมาที่ญี่ปุ่น อยากแนะนำให้ทุกคนอ่านความแตกต่างของมารยาทและกฎเกณฑ์ต่างๆที่มีความแตกต่างกับประเทศของตนก่อนเพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตได้ราบรื่นขึ้น (ที่โรงเรียนมีการแจกคู่มือให้กับนักเรียนในพิธีวันเปิดศึกษาใหม่ด้วยเช่นกัน)

 

 

สามารถเรียนได้นานสูงสุดกี่ปี

สามารถเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นได้นานสูงสุด2ปี

ถ้าไม่มีผู้ค้ำประกันชาวญี่ปุ่นแล้วจะมีปัญหาอะไรหรือไม่

พ่อแม่สามารถเป็นผู้ค้ำประกันให้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีเงินเพียงพอโดยแยกเป็นสำหรับค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในช่วงที่อยู่ญี่ปุ่น

ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายจะสามารถเรียนได้หรือไม่

สามารถเรียนได้3เดือนโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามสำหรับการยื่นขอวีซ่านักเรียนนั้นจำเป็นต้องใช้ใบรับรองจบการศึกษามัธยมปลายหรือเทียบเท่า